แบบหลังคามีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับหลังคาชิงเกิ้ล

หลายคนที่กำลังทำบ้านใหม่หรือต้องการเปลี่ยนวัสดุมุงหลังคา เพราะเจอปัญหาในเรื่องของการระบายความร้อน น้ำขังบนหลังคา หรือน้ำซึม น้ำรั่วจากบนหลังคาบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาหนักหนาสาหัสในเรื่องของที่อยู่อาศัย เพราะหากเปลี่ยนทีก็เรียกว่าได้เสียเงินเสียทองกันมากโขอยู่ ดังนั้น สำหรับคนที่กำลังบ้านใหม่หรือต้องการเปลี่ยนวัสดุมุงหลังคาก็ควรจะต้องคิดและใส่ใจในเรื่องของการทำหลังคาให้ดีๆ ต้องคิดอย่างละเอียดรถี่ถ้วน และต้องพิจารณาทั้งในเรื่องของแบบหลังคาและวัสดุที่จะต้องนำมาใช้ในการทำหลังคาด้วย

วันนี้ Roof Connext จึงอยากจะมาขอแนะนำรูปแบบหลังคาที่เรามักจะเห็นกันได้บ่อย ๆ ในประเทศไทยของเรา ดังนี้

1. หลังคาทรงจั่ว
   หลังคาทรงจั่วเปรียบเสมือนเป็นหลังคงทรงมาตรฐานของบ้านประเทศไทยเรา เรามักจะเห็นหลังคาทรงจั่วได้ทั่วไปตามทุกภูมิภาค ที่มีลักษณะเป็นด้านลาดเอียงสองด้านชนกันคล้ายสามเหลี่ยมแต่ไม่มีฐาน ซึ่งหลังคาทรงจั่วถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดการไหลเวียนของอากาศภายในอาคาร ช่วยให้มวลอากาศเย็นที่เข้ามาดันมวลอากาศร้อนให้ลอยตัวขึ้นไปข้างบน ทำให้มวลอากาศร้อนจะระบายออกภายใต้หลังคาได้ดี ซึ่งหลังคาหน้าจั่วนี้จึงเหมาะกับบ้านที่อยู่อาศัยในเขตร้อนอย่างประเทศไทยของเรา
   
   
2. หลังคาทรงปั้นหยา 
   หลังคาทรงปั้นหยา มีลักษณะคล้ายกับหลังคาทรงจั่วที่เป็นด้านลาดเอียง แต่จะมีด้านลาดเอียงทั้งหมด 4 ด้านด้วยกัน และมักจะมีชายคายื่นปกคลุมตัวอาคารซึ่งจะช่วยในการกันแดดกันฝนได้เป็นอย่างดี ข้อดีของหลังคาทรงปั้นหยาคือความมั่นคง แข็งแรง ทนพายุและทนฝนได้ เราจึงมักจะเห็นหลังคาทรงปั้นหยามากหน่อยแถบทางภาคใต้ของบ้านเราที่ขึ้นชื่อว่า เป็นภูมิภาคแห่ง ฝน 8 แดด 4 คือ มีฝนตก 8 เดือน เจอแดดเพียง 4 เดือนเท่านั้น
   
   
3. หลังคาทรงมะนิลา
   หลังคาทรงมะนิลาเป็นหลังคาของหลังที่นำทั้งส่วนของจั่วและปั้นหยามาผสมผสานกัน นั้นคือมีลักษณะของด้านลาดเอียงทั้ง 4 ด้านแต่มีจั่วยกขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งเรามักจะเห็นหลังคาทรงมะนิลากันมากตามบ้านเรือนสมัยใหม่ทั่วไปทุกภูมิภาคของประเทศไทย เพราะมีความแข็งแรง ทนทาน ต้านลมทนต่อลมพายุได้ดี แต่ในการทำหลังคาประเภทนี้อาจจะมีการใช้งบประมาณที่มากกว่าหลังคาทรงอื่นพอสมควร
   
   
4. หลังคาเพิงหมาแหงน
   หลังคาเพิงหมาแหงนเป็นลักษณะของหลังคาที่มีความลาดเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว เรามักจะเห็นหลังคาเพิงหมาแหงนตามอาคารห้องเช่าชั้นเดียว หรือการทำหลังคาให้กับกระต๊อบเล็กๆ ปลายนา ข้อดีของหลังคาประเภทนี้คือสร้างง่าย โครงสร้างไม่มีความซับซ้อน ประหยัดวัสดุ แต่ข้อเสียของหลังคาประเภทนี้คือการระบายความร้อนอาจจะไม่ค่อยดีนักและหากทำความลาดเอียงไม่เหมาะสมผิดแบบไปอาจจะทำให้เกิดน้ำขังบนหลังคาและทำให้หลังคาเสื่อมได้เร็ว
   
   
5. หลังคาทรงปีกผีเสื้อ
   หลังคาทรงปีผีเสื้อเป็นลักษณะหลังคาที่นำเพิงมาแหงนสองอันมาว่าติดกัน โดยที่ด้านลาดต่ำชิดกัน ทำให้เห็นเป็นลักษณะของปีกผีเสื้อ (หรือลักษณะของตัว V ที่ลาดชันต่ำ) หลังคาทรงปีกผีเสื้อจะมีความสวยงาม ดูมีความทันสมัย แต่มีข้อเสียคล้ายกับทรงหมาแหงนในเรื่องของการระบายความร้อนและการรับน้ำฝน
   
   
6. หลังคาทรงกลม
   หลังคาทรงกลมเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นมากนัก เพราะการก่อสร้างค่อนข้างจะยากมีความซับซ้อนในด้านโครงสร้าง และต้องอาศัยช่างที่มี
   ฝีมือในการทำถึงจะพบปัญหาได้น้อย หลังคาทรงกลมจะมีลักษณะเด่นคือการโค้งมน ของหลังคา ต้องผ่านการคำนวณในการทำการโค้งมนของหลังคาอย่างละเอียด จุดเด่นคือความสวยงาม ทันสมัย ดู แปลกตา แต่จุดด้อยก็คือการระบายความร้อนและจัดวางกระเบื้องมุงหลังคาได้ยาก หากจัดวางไม่ดีก็จะมีปัญหาการรั่วซึมได้
   
   
7. หลังคาทรงแบน 
   หลังคาทรงแบนเป็นหลังคาที่ดูลักษณะภายนอกเหมือนจะไม่มีหลังคา เพราะมีการเรียบไปกับตัวอาคาร ซึ่งปัจจุบันเรามักจะเห็นได้ตามทาวน์เฮาส์และทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์นหรือบ้านสมัยใหม่ จุดเด่นคือการดูทันสมัย สามารถใช้พื้นที่บนหลังคาในการทำประโยชน์อื่นได้ แต่ข้อเสียคือการระบายความร้อน เพราะจะรับพลังความร้อนจากแสงพระอาทิตย์เข้ามาโดยตรง

หลังคาชิงเกิ้ล (Shingle Roof)  นั้น เหมาะกับหลังคารูปแบบใด เราต้องรู้คุณสมบัติและลักษณะของหลังคาชิงเกิ้ลเสียก่อน ซึ่งลักษณะของหลังคาชิงเกิ้ลมีดังนี้

ลักษณะของ Shingle Roof หรือ หลังคาชิงเกิ้ล ถ้าดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว Shingle Roof หรือ หลังคาชิงเกิ้ล ก็จะมีลักษณะคล้ายกับกระเบื้องมุงหลังคาทั่วไป แต่ถ้าหากมาสัมผัสจะเห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากหลังคาชิงเกิ้ลนั้นผลิตจาก ไฟเบอร์กลาส ยางมะตอย และเม็ดสีเซรามิก ซึ่งวัสดุทั้ง 3 ชนิดนี้จะช่วยทำให้หลังคาชิงเกิ้ลมีคุณสมบัติทางด้านความทนทาน การป้องกันความชื้น ป้องกันรังสื UV น้ำหนักเบาและที่สำคัญคือมีความยืดหยุ่นมากกว่ากระเบื้องมุงหลังคา

ดังนั้น ถ้าคำถามที่ว่า หลังคาแบบไหนเหมาะกับหลังคาชิงเกิ้ลนั้น จึงขอตอบได้ว่าหลังคาชิงเกิ้ลเหมาะกับหลังคาเกือบทุกรูปแบบ เว้นแต่แบบทรงแบนที่เราไม่ขอแนะนำเนื่องจากแบบนี้ไม่มีการลาดเอียงและอาจจะทำให้เกิดน้ำขังแล้วอาจจะทำให้หลังคาชิงเกิ้ลนั้นเสื่อมสภาพได้เร็ว แต่หลังคารูปแบบอื่นที่มีความลาดเอียงนั้น หลังคาชิงเกิ้ลสามารถนำไปจัดวางได้ ยิ่งรูปแบบวงกลมนั้น หลังคาชิงเกิ้ลที่มีคุณสมบัติของความยืดหยุ่นได้ดีกว่าหลังคากระเบื้อง จึงสามารถนำไปจัดวางได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

ตอนนี้อาจจะได้คลายกังวลให้กับคนที่จะเลือกใช้หลังคาชิงเกิ้ลมาทำหลังคากับบ้านของตนเองไปแล้ว แต่ถ้าหากท่านมีข้อกังวลหรือข้อสงสัยอื่น ท่านสามารถเข้ามาปรึกษากับเรา Roof Connext ได้ เรายินดีให้บริการให้คำแนะนำ เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญในด้านการทำหลังคาด้วย Asphalt Shingle Roof, Cedar Roof หรือ Thatch Roof พร้อมให้บริการในด้านการออกแบบ การติดตั้ง ครบวงจร เพื่อให้ท่านได้อาศัยอยู่ภายใต้ชายคาบ้านเรือนของท่านได้อย่างไม่มีความกังวลใจและจะพบแต่ความสบายใจภายในบ้านของท่านเท่านั้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลังคา Shingle Roof 

Phone : 086-929-5555 , 062-449-9559
Email : roofconnext@gmail.com