หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ VS หลังคาไม้ซีดาร์ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

การสร้างบ้าน บ้านพักตากอากาศ โรงแรม รีสอร์ต สปา สำนักงาน ร้านค้า นอกจากให้ความสำคัญในเรื่องความแข็งแรงและสวยงามแล้ว ยังคำนึงถึงภาพลักษณ์ ธีม สไตล์ ที่บ่งบอกถึงรสนิยม ตัวตน และเอกลักษณ์ หลังคาที่เป็นที่นิยมสำหรับธุรกิจโรงแรมชั้นนำ สปาที่มีชื่อเสียง บ้านอันมีรสนิยม ออฟฟิศหรูหรา คือ หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ และ หลังคาไม้ซีดาร์ บทความนี้ Roof Connext มืออาชีพทางด้านหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ หลังคาไม้ซีดาร์ และหลังคาหญ้าคาเทียม จะมาอธิบายความแตกต่างระหว่างหลังคาทั้งสองประเภท

ความแตกต่างระหว่างหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ (Asphalt Shingle roofing) และหลังคาไม้ซีดาร์ ( Cedar Shake Roof)

1. วัสดุ
   
   วัสดุของหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ
       • ตรงกลางจะเป็นใยแก้ว หรือ ไฟเบอร์กลาส ที่มีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง เอื้อต่อการติดตั้งได้หลากหลายแบบ และไม่กักเก็บความร้อน
       • ด้านนอกเคลือบด้วยยางมะตอยชนิดพิเศษทั้งสองด้าน (asphalt) เป็นวัสดุที่รวมจุดเด่นหลายอย่างไว้ด้วยกัน คือ มีความแข็งแรงทนทาน ยืดหยุ่น น้ำหนักเบา
       • ด้านบนโรยเม็ดหินสีเซรามิก เพื่อเพิ่มความทนทาน ช่วยป้องกันรังสีอัลตร้าไวโอเลต และปกป้องหลังคาจากความชื้น
   
   วัสดุของหลังคาไม้ซีดาร์
       • เป็นไม้จริง ต้นซีดาร์จัดเป็นต้นสนที่มีความแข็งแรงมาก พบมากในแถบอเมริกาเหนือ โดย Roof Connext เลือกใช้ไม้สนที่นำเข้าจาก    • ประเทศแคนาดา โดดเด่นเรื่องความแข็งแรง ทนทานต่อแมลง และมีกลิ่นหอม
   
   
2. ข้อดีที่เหมือนและแตกต่างกัน
   
   ข้อดีที่หลังคาทั้ง 2 ประเภทมีเหมือนกัน คือ ความแข็งแรงทนทาน หากเปรียบเทียบว่าหลังคาชนิดใดแข็งแกร่งมากกว่า คำตอบคือ หลังคาไม้ซีดาร์ เพราะทนต่อการผุกร่อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นร้อนสุดขีด หนาวยะเยือก หรือฝนฟ้ากระหน่ำ ก็ไม่หวั่น โดยเฉพาะหลังคาไม้ซีดาร์ที่ Roof Connext คัดสรรมา จัดเป็นไม้ซีดาร์ในภูเขาและป่าที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแรงมากที่สุด
   
   ข้อดีที่แตกต่างกัน
   
   ข้อดีของหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ
       • น้ำหนักเบา
       • ราคาย่อมเยา เมื่อเปรียบเทียบกับหลังคาประเภทอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมต้นทุนในการก่อสร้าง
       • ติดตั้งง่าย เพราะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกทั้งการเคลื่อนย้ายและการติดตั้ง เพราะสามารถติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับบ้านหรือสถานที่ที่มีเวลาในการก่อสร้างน้อย
       • ใช้กับทรงหลังคาได้หลากหลาย เพราะยางมะตอยสามารถตัดได้ งอหรือดัดได้ โค้งได้
   ซ่อมแซมง่าย หลังจากใช้งานหลังคาอย่างยาวนาน อาจมีหลังคาบางแผ่นหลุด หรือชำรุด สามารถเปลี่ยนเฉพาะแผ่นที่ได้รับความเสียหาย ไม่ต้องเปลี่ยนหลังคาทั้งหมด
       • เหมาะกับหลังคาเกือบทุกรูปแบบ ยกเว้นทรงแบน ที่อาจก่อให้เกิดน้ำขัง และมีความชื้น 
   
   ข้อดีของหลังคาไม้ซีดาร์
       • แข็งแกร่งที่สุด
       • ดูดีมีความพรีเมียมแบบประหยัดค่าไฟ ด้วยความสวยงามของลวดลายไม้จากไม้ธรรมชาติผสมผสานเทคโนโลยี นาโน พิกเม้นท์ หลังคาไม้ซีดาร์สามารถป้องกันแสงแดดไม่ให้เข้าไปภายในตัวบ้าน ภายนอกจะร้อนแค่ไหน ภายในบ้านหรืออาคารกลับเย็นสบาย แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟ
       • รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม เพราะการผลิตหลังคาไม้ซีดาร์ มีการปลูกไม้ซีดาร์ทดแทนทุกๆ การตัด กระบวนการผลิตปราศจากสารเคมี หลังคาสามารถนำไปรีไซเคิลได้
   
   
3. การติดตั้ง
   
   การติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ ใช้แผ่นไม้อัด OSB (Oriented Strand Board) และแผ่นยางกันน้ำ ควบคู่กันไป
   การติดตั้งหลังคาไม้ซีดาร์ ก่อนติดตั้งหลังคาต้องใช้แผ่นไม้อัดทนความชื้นรอง และปูแผ่นยางกันน้ำทับ
   
   
4. อายุการใช้งาน 
   
       • หลังคาชิงเกิ้ลรูฟมีอายุการใช้งานประมาณ 20-30 ปี
       • หลังคาไม้ซีดาร์มีอายุการใช้งานประมาณ 30-40 ปี (ขึ้นอยู่กับว่าใช้หลังคาไม้ซีดาร์เกรดใด หากใช้เกรดดีที่สุด อาจมีอายุการใช้งานถึง 50 ปี)
       • ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งาน คือ คุณภาพของหลังคา การติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ และการดูแลรักษาของเจ้าของอาคาร
   
   
5. ราคา
       • หลังคาชิงเกิ้ลรูฟมีราคาถูกเมื่อเทียบกับหลังคาแบบต่างๆ
       • หลังคาไม้ซีดาร์มีราคาสูงกว่า แต่เมื่อเทียบกับความสวยงาม ความเป็นเอกลักษณ์ และอายุการใช้งาน การป้องกันความร้อนซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าไฟ เมื่อคำนวณดูแล้วมีความคุ้มค่า
   
   
6. ตัวเลือก
   
   หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ
       มีให้เลือกหลายสี หลายรูปทรง ไม่เพียงแต่สีทั่วไปเท่านั้น สีเขียว สีฟ้า หรือสีแดงก็มี รูปทรงหลากหลาย เช่น ทรงสี่เหลี่ยม ทรงห้าเหลี่ยม แบบโค้งมน ในประเทศไทยที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด มี 2 ประเภท คือ หลังคาชิงเกิ้ล รุ่น 1 ชั้น (Three-Tab Shingles) และ หลังคาชิงเกิ้ลรุ่น 2 ชั้น (Laminated Shingles or Architectural Shingles)
   
   หลังคาไม้ซีดาร์
       มีตัวเลือกน้อยกว่าหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ เพราะหลังคาประเภทนี้เน้นความเป็นธรรมชาติ มีทั้งหมด 3 ประเภทใหญ่ๆ ให้เลือกสรร คือ หลังคาไม้ซีดาร์แบบทั่วไป (Commin Grade) หลังคาไม้ซีดาร์แบบคัดเกรด (Select Grade : 20% Flat Grade) และหลังคาไม้ซีดาร์เกรน 100% (100% Strighted Grain) สำหรับพื้นผิว มีให้เลือกทั้งผิวเรียบและผิวคลื่น

หากคุณต้องการติดตั้งหลังคา นึกถึง Roof Connext ผู้จำหน่ายและบริการติดตั้ง หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ (Ashalt Shingle Roof) หลังคาไม้ซีดาร์ หลังคาซีดาร์ (Cedar Shake Roof) หลังคาหญ้าคาเทียม (Artifical Thatch Roof) เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ หลังคาคุณภาพสูง แบรนด์ Owen Corning, TN และ GAF สำหรับหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ แบรนด์ Cedar Shake & Shingle Bureau , Waldun สำหรับหลังคาไม้ซีดาร์ พร้อมให้คำปรึกษา บริการติดตั้งหลังคา บริการเปลี่ยนหลังคา มีการรับประกันคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย การันตีได้จากความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าในทุกโครงการที่ Roof Connext ได้ทำการติดตั้งหลังคาให้ เช่น Andaman Sea View, Crest Resort & Pool Villas, Nakamanda Resort & Spa, Sripanwa, The Sand Khao Lak, Deva’s Phuket ฯลฯ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลังคา Shingle Roof 

Phone : 086-929-5555 , 062-449-9559
Email : roofconnext@gmail.com