ปัญหาใกล้ตัวที่อาจพบได้ เมื่อติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ
การติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ เพื่อป้องกันการหลุดร่วงของแผ่นชิงเกิ้ล
บ้านเป็นที่พักอาศัยของคนเรา เพื่อเป็นที่พักผ่อนและให้ความรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในบ้าน ซึ่งหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของบ้านนั่นก็คือ “หลังคาบ้าน” โดยในปัจจุบันนี้ก็มีวัสดุหลายประเภทที่นำมาทำเป็นหลังคาบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องคอนกรีต หลังคาดินเผา หลังคาเซรามิก หลังคาเมทัลชีท และหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ เมื่อหลังคามีวัสดุหลายประเภท ฉะนั้นแล้ววิธีการติดตั้งหลังคาในแต่ละประเภทก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งสำหรับวันนี้จะพูดถึงการติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ
หลังคาชิงเกิ้ลรูฟเป็นหลังคาที่ผลิตมาจากยางมะตอย ทนทาน และน้ำหนักเบา สามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ดี รวมถึงมีลวดลายและสีสันที่สวยงาม จึงได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ทั้งนี้การติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟถึงแม้จะมีวิธีการติดตั้งที่ง่ายแต่ก็เป็นผู้ที่มีชำนาญและเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ไม่อย่างงั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาการติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟและทำให้แผ่นหลุด หรือเกิดการรั่วซึมได้เช่นกัน ซึ่งจะทำให้คุณต้องมาแก้ปัญหาหรือคอยซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา
สำหรับขั้นตอนในการติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟนั้น มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเหมือนหลังคาประเภทอื่นๆ มาลองดูกันว่าถ้าหากจะติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟนั้น มีวิธีการคร่าวๆ อย่างไรบ้าง
- การทำแบบแปลนโครงสร้างของหลังคา เพื่อใช้ในการคำนวณการใช้งานแผ่นหลังคาชิงเกิ้ลรูฟได้อย่างชัดเจน
- โครงสร้างหลังคาชิงเกิ้ลรูฟจะเป็นแปรไม้หรืออาจจะเป็นแปรเหล็กขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
- ติดตั้งไม้อัด OSB ที่มีคุณสมบัติทนชื้น และติดตั้งไม้อัด OSB ทับบนเชิงชาย
- ถัดมาคือการปูทับด้วยกระดาษกันน้ำ โดนจะมีการเรียงทับซ้อนกัน 10 เซนติเมตรและติดตั้งฉากเหล็กกันน้ำไหลย้อนที่ขอบ
- ติดตั้งแผ่นชิงเกิ้ลรูฟ ที่ถูกต้องเพื่อให้มีการใช้งานประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
- การยึดแผ่นหลังคาด้วยตะปู
- เมื่อขั้นตอนการปูหลังคาชิงเกิ้ลรูฟเรียบร้อยแล้ว จะมีแผ่นครอบสันทับอีก 1 ชั้น
- ขั้นตอนนี้จะติดตั้งไปพร้อมกับขั้นตอนที่ 5 ติดตั้งแผ่นรางตะเข้เพิ่ม เพื่อทำให้หลังคาเกิดการประสานกันของแผ่นหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ
ทั้งนี้ การติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลหากไม่ใช่ผู้ที่ชำนาญหรือผู้ที่เชี่ยวชาญแล้ว จะทำให้พบปัญหาในการติดตั้งที่จะทำให้แผ่นหลุดร่วง ซึ่งสาเหตุเกิดจากการใช้ลวดยิงธรรมดา แล้วลวดยิงขึ้นสนิมทำให้ลวดยิงขาด หรือการยิงลวดผิดตำแหน่ง ก็จะส่งผลให้แผ่นหลังคาชิงเกิ้ลหลุดร่วง ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้จึงอยากจะแนะนำวิธีการยึดแผ่นชิงเกิ้ลรูฟและการเรียงแผ่นชิงเกิ้ลรูฟ มีดังนี้
- ติดตั้งแผ่นชิงเกิ้ลรูฟจะต้องใช้ตะปูหัวแบน (กรณีลูกค้ามีความต้องการที่ใช้ตะปูหัวแบน)ทุกๆ ระยะ 30 เซนติเมตร โดยตะปูหัวแบนจะต้องเป็นแบบกันสนิม เบอร์ #1016
- แถวที่ 1 ใช้เต็มแผ่นโดยวางแผ่นพอดีกับขอบ Starter ทั้งสองด้าน และวางเป็นแนวยาวตามขอบ Starter แล้วยิงตะปูหัวแบน ทั้เป็นแนวนอนบนเส้นสีขาวที่อยู่บนแผ่นหลังคา
- แถวที่ 2 ตัดแผ่นหลังคาชิงเกิ้ลออก 15 เซนติเมตร และนำไปวางไปวางทับแผ่นแรกโดยปลายแผ่นต้องเลยเส้นสีขาวออกไป 2 เซนติเมตร แล้วยิงตะปูหัวแบน ทั้ตามแนวเส้นขาวแผ่นที่ 2
- แถวที่ 2 ตัดแผ่นชิงเกิ้ลออก 30 เซนติเมตร โดยทุกครั้งก่อนวางแผ่นหลังคาชิงเกิ้ลให้ตรวจเช็ค ปลายแผ่นต้องเลยเส้นสีขาวออกไป 2 เซนติเมตร ก่อนทำการยิงตะปูเพื่อจะได้ปิดทับตะปูหัวแบนที่ยิงยึดแผ่นไปแล้ว
- ทุกช่วงต่อของแผ่นหลังคาชิงเกิ้ล ให้วางชนกันเท่านั้นไม่วางทับซ้อนแผ่น และเช็คปลายแผ่นทุกครั้งให้ปลายแผ่นทับแนวตะปูยิงเกินแผ่นออกไป 2 เซนติเมตร
- โดยตะปูหัวแบนจะยิงห่างกัน 30 เซนติเมตร จำนวน 4 จุด
- หลังจากนั้นให้ทำการติดตั้งเหมือนกันทุกแถว ซึ่งจะคล้ายขั้นบันได ขั้นละ 15 เซนติเมตร ซึ่งเศษของแผ่นหลังคาชิงเกิ้ลที่ตัดออกไป สามารถนำมาต่อกันได้
- การติดตั้งแผ่นชิงเกิ้ลรูฟให้ทำต่อเนื่องไปจนถึงสันหลังคา
นอกจากปัญหาหลังคาที่เกิดจากการติดตั้งแล้ว ยังมีปัญหาที่สามารถเกิดจากอากาศเป็นตัวแปรด้วยเช่นกัน ซึ่งการติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟนั้น เจ้าของบ้านอาจจะต้องดูสภาพอากาศในพื้นที่นั้นๆ ด้วยว่ามีความเหมาะสมหรือจะสร้างปัญหาให้ในภายหลังหรือไม่ ลองมาดูกันว่าปัญหาที่อาจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศ มีอะไรบ้าง เพื่อวางแผนรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
- ราที่หลังคาจากปัญหาอากศชื้น
หากสภาพอากาศที่ชื้นตลอดเวลา ไม่ค่อยเจอแดดก็จะทำให้มีความชื้นเกิดตะไคร้น้ำ หรือเชื้อราเกาะบนหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ ซึ่งสามารถแก้ไขโดยออกแบบให้บ้านมีช่องรับแสงแดดบางช่วงเวลา หรือตัดกิ่งไม้เพื่อเปิดรับแสงแดด - ลมพัดแรง
ในช่วงที่มีมรสุมลมกรรโชกแรง ด้วยคุณสมบัติหลังคาชิงเกิ้ลรูฟที่มีน้ำหนักเบา จึงทำให้มีโอกาสที่จะโดนลมพัดเอาแผ่นหลังหลุดออกไปได้ หรือจะทำให้เกิดช่องว่างของแผ่นหลังคาชิงเกิ้ลรูฟขึ้นได้ - รอยรั่วซึมในช่วงหน้าฝน
สาเหตุนี้อาจจะเกิดจากการติดตั้งของช่างในช่วงแรกที่ไม่ได้คุณภาพ หรือซ่อมแซมไม่ถูกต้อง เนื่องจากขาดความชำนาญ และยิ่งหากมีลมกรรโชกแรงก็อาจจะทำให้เกิดรอยรั่วซึมได้ง่าย
หลายคนมองว่าการติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟมีวิธีการติดตั้งที่ง่ายไม่ซับซ้อน แต่หากขาดความชำนาญในรายละเอียดบางส่วนก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาได้เช่น การให้ทีมงานช่างที่เป็นมืออาชีพช่วยในการติดตั้งหรือซ่อมแซมหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ ก็จะช่วยยืดเวลาการใช้งานหรือต่ออายุให้หลังคาสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากยิ่งขึ้น เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ไม่จำเป็น ซึ่งหากใครที่มีแผนจะติดตั้งหลังคาชิงเกิ้ลรูฟ ลองปรึกษา Roof Connext ซึ่งสามารถให้คำปรึกษา มีบริการติดตั้ง และบริการเปลี่ยนหลังคา ด้วยทีมงานมืออาชีพ มีประสิทธิภาพมาตรฐาน ทำให้คุณพึงพอใจอย่างแน่นอน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลังคา Shingle Roof
Phone : 086-929-5555 , 062-449-9559
Email : roofconnext@gmail.com